นายวิบูล จันทรดิลกรัตน์ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ปัจจุบันทางสมาคมฯ โดยฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ได้ริเริ่มโครงการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) ระหว่าง ธุรกิจรับสร้างบ้าน กับผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และบริการที่เกี่ยวเนื่อง โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะมุ่งส่งเสริมกิจกรรมทางด้านการตลาดให้กับสมาชิกของสมาคมฯ เพื่อความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาชิกด้วยกัน โดยโครงการดังกล่าวจะมีการรวบรวมผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจรับสร้างบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง ผู้จัดจำหน่าย รวมถึงผู้ให้บริการด้าน ต่างๆมารวมตัวกัน พร้อมกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ ให้กับกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านได้รับทราบ และยังเปิดโอกาสให้มีการเจรจาทางธุรกิจในรูปแบบต่างๆ ตามที่จะตกลงกัน
สำหรับกิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลทางธุรกิจที่สมาคมฯ ได้ดำเนินการให้กับสมาชิก ซึ่งนอกจากจะสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาชิกแล้ว ยังเป็นการช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไปพร้อมๆกัน โดยการจัดกิจกรรม ในครั้งนี้ มีกลุ่มผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการ เข้าร่วมกิจกรรมรวม 69 บริษัท จากสมาชิกสมาคมฯทั้งหมด 93 บริษัท หรือคิดเป็น 74% ซึ่งครอบคลุมทุกธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น บริษัทรับสร้างบ้าน ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย เหล็ก สี ปูน โครงหลังคา กระเบื้องหลังคา บานประตู หน้าต่าง ผลิตภัณฑ์กำจัดปลวก โดยสัดส่วนระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่มาร่วมงานอยู่ในอัตราที่ใกล้เคียงกันซึ่งจะทำให้การซื้อขายภายในงานสามารถทำได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น
“เราอยากสร้างเวทีกลางให้กับสมาชิกได้มาแลกเปลี่ยน และทำธุรกิจร่วมกัน ซึ่งการเริ่มต้นในครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีมีผู้เข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมากเกินความคาดหมายที่เราได้ตั้งเป้าไว้ ซึ่งในครั้งหน้าเราก็มีแนวคิดที่จะขยายการจัดกิจกรรมรูปแบบนี้ให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น “ นายวิบูล กล่าว
นายวิบูล กล่าวต่อไปว่า คาดว่ากิจกรรมนี้น่าจะมีดีลทางธุรกิจเกิดขึ้นหลายดีล โดยเราต้องการให้บรรยากาศของงานเป็นเหมือนงานแสดงสินค้าและการเจรจาธุรกิจไปพร้อมๆกัน ซึ่งนอกจากจะได้ประโยชน์ทั้งบริษัทรับสร้างบ้าน กับ ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องแล้ว ในอนาคตคาดว่าหากกิจกรรมนี้ประสบความสำเร็จ จำนวนผู้เข้าร่วมก็จะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สมาคมฯ สามารถขยายฐานสมาชิกออกไปในวงกว้าง และผลดีก็คือ จะเกิดความหลากหลายในสินค้าและบริการของสมาชิกด้วยกันเอง และนำมาซึ่งการซื้อขายภายในกลุ่มสมาชิก โดยในอนาคต สมาคมฯ คาดว่างานดังกล่าวน่าจะกลายเป็นงานที่มีการอัพเดท นวัตกรรมของสินค้าและบริการรูปแบบใหม่ๆ และเป็นแหล่งที่รวมสินค้าและบริการที่มีความสมบูรณ์แบบงานหนึ่งเช่นกัน
ที่มา : โอเอซิส มีเดีย